วัดจากแดง เจดีย์ทองส่องประกายริมฝั่งเจ้าพระยา

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้นะคะ จะเป็นวัดสุดท้ายที่แอดมินภูมิใจนำเสนอ และจะพาเพื่อนๆทุกๆคนไปกราบไหว้ นมัสการกันค่ะ นั่นก็คือวัดจากแดงนั่นเองค่ะ

ว่างๆวันหยุดแบบนี้นะคะแอดมินก็ได้นั่งรถลัดเลาะเที่ยวพระประแดงแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของคนกรุงเทพ ที่ชาวบ้านในท้องถิ่นยังคงเก็บรักษาไว้ให้ชื่นชมเป็นความภาคภูมิใจของคนพระประแดง วันนี้แอดมินจึงมีเป้าหมายไปที่วัดจากแดง 

• และนี่คือบริเวณวัดจากแดงเมื่อแอดมินยื่นอยู่ที่ระเบียงเจดีย์

• นี่คือโบสถ์วัดจากแดง

• นี่คือเจดีย์ทองมุมมองเมื่อตะวันบ่ายคล้อย

วัดจากแดง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้สะพานแขวนอุตสาหกรรม มีบริเวณไม่กว้างไม่ใหญ่มากนักแต่มีความสงบเงียบและอยู่ไม่ไกลจากอำเภอพระประแดง มีเจดีย์ทองสวยเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีความสงบเงียบเหมาะสำหรับคนที่คิดจะหลีกหนีความวุ่นวายไปนั่งพักผ่อนดูลมชมวิว หรือนั่งสมาธิ นับว่า "วัดจากแดง" เป็นสถานที่ที่เหมาะมาก

• เมื่อมองจากระเบียงเจดีย์ทองจะเห็นสะพานแขวนอุตสาหกรรมเป็นฉากหลัง

• พระประธานและพระบรมสารีริกธาตุ ในมลฑปเจดีย์

วัดนี้มีบรรยากาศร่มรื่นเหมือนวัดป่า ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามองเห็นวิวสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมเป็นช่วงที่สวยที่สุด และเป็นฉากหลังที่มีหลวงพ่อหินเป็นที่ศัทธาของชาวบ้านในระแวกนี้ค่ะ  

เที่ยววัดสวยใกล้กรุง ชมความงามพระธุตังคเจดีย์

สวัสดีค่ะทุกๆคน วันนี้แอดมินจะพาทุกๆคนไปเที่ยวชม "วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ" ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญและเต็มไปด้วยความงดงามทางสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะพระธุตังคเจดีย์ เจดีย์สีขาวขนาดใหญ่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่มีชาวพุทธมาวิปัสสนากรรมฐานอยู่เสมอ

วัดอโศการาม เดิมเรียกว่า วัดนาแม่ขาว ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลบางปูซอย 60 ถนนสุขุมวิทสายเก่า ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ บนพื้นที่ 53 ไร่ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2505 ที่มาของคำว่า "อโศการาม" แปลว่า แหล่งรื่นรมย์ที่ไร้ความเศร้าหมอง

ไฮไลต์ของวัดอโศการามอยู่ตรงพระธุตังคเจดีย์ เป็นพระเจดีย์หมู่รวม 13 องค์ แต่ละองค์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเพื่อเป็นที่ระลึกถึงธุดงควัตร 13 ประการ ภายในยังมีพระธาตุของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อาทิ หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชา เป็นต้น

นอกจากนี้ภายในวัดอโศการามยังมีสิ่งที่น่าสนใจได้แก่ วิหารวิสุทธิธรรมรังสี เป็นอาคารจตุรมุข 3 ชั้นซึ่งชั้นบนเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและสรีระของพระอาจารย์ลี ปัจจุบันเป็นสถานที่ทำวัตรของสงฆ์

รูปปั้นจำลองพระเจ้าอโศกมหาราช

ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างพระธุตังคเจดีย์และวิหารวิสุทธิธรรมรังสี และบริเวณด้านหลังวัดอโศการามจัดเป็นสวนร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นป่า โกงกาง ไม้ลำพู หรือปลงทองนั่นเองค่ะ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจและดูสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ อาทิ หมูป่า เป็นต้นค่ะ

การเดินทาง

หากเดินทางด้วยรถยนต์ควรใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทสายเก่า (ทางไปบางปู) ประมาณ กม.ที่ 31 จากนั้นกลับรถแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเทศบาลบางปู 60 ประมาณ 1 กิโลเมตรก็จะถึงวัดอโศการามด้านซ้ายมือ หรือหากนั่งรถโดยสารประจำทางสาย 25,102,142,145,507,508,511 และ 536 ก็จะถึงหน้าวัดอโศการามนั่นเองค่ะ

ตื่นตาพระปรางค์เอียงคู่เมืองปากน้ำ

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้แอดมินมีวัดที่น่าสนใจมานำเสนอค่ะนั่นก็คือ "วัดสาขลา จังหวัดสมุทรปราการ" ค่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่ดเด่นคู่เมืองปากแม่น้ำแถมยังไม่ไกลจากกรุงเทพด้วยค่ะ โดยภายในวัดแห่งนี้มี "พระปรางค์เอียง" ที่เก่าแก่ตั้งอยู่ริมคลองมีความสวยงามลักษณะเด่นเป็นเอกลักษณ์ เรียกได้ว่าเป็นอันซีนหนึ่งเดียวของไทยค่ะ

วัดสาขลา เป็นวัดเก่าแกที่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้นเมื่อคราวที่รบชนะพม่า ซึ่งไฮไลต์ที่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัดแห่งนี้อยู่ตรง พระปรางค์หรือเจดีย์เอียง นั่นเองค่ะ ส่วนด้านบนของเจดีย์มีพระพุทธรูปยืนทั้ง 4 ด้าน ซึ่งในอดีตร้อยกว่าปีมาแล้วเกิดการทรุดตัวของแผ่นดินจากน้ำท่วมขังเพราะตั้งอยู่ริมคลอง และการก่อสร้างในอดีตจะใช้การวางท่อนซุงหรือท่อนไม้เป็นรากฐานไม่ได้ลงเสาเข็มเหมือนปัจจุบันทำให้ พระปรางค์เอียง แต่ก็ไม่ได้โค่นล้มลงมา

นอกจากนี้วัดสาขลายังมีวิหารหลวงพ่อโต พระวิหารสร้างด้วยไม้ หลังคากระเบื้อง แต่ปัจจุบันตัววิหารได้มีการซ่อมแซมเป็นก่ออิฐถือปูน หลังคาด้านหน้าด้านหลังออกมุขหลังคา 3 ชั้น เป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตพระพุทธรูปขนาดใหญ่

ในการสักการะหลวงพ่อโตสิ่งสำคัญที่พลาดไม่ได้คือ "การลอดโบสถ์" เพราะเชื่อกันว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์เสริมสิริมงคลกับตัวเอง ซึ่งวัดสาขลาได้ยกโบสถ์ให้สูงขึ้นเนื่องจากปัญหาน้ำท่วมในช่วงน้ำหลากใต้โบสถ์จึงสามารถลอดไปมาได้ แต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชนมาลอดโบสถ์เสมอ

ภายในวัดสาขลายังมีสถานที่ที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์เทพศรีสาขลา เป็นที่รวบรวมเอามหาเทพจากศาสนาฮินดูมาบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาและองค์มหาเทพต่างๆ อาทิ พระพิฆเนศปางต่างๆ พระตรีมูรติ พระแม่ธรณีมวยผมค่ะ

การเดินทาง

เดินทางด้วยรถยนต์ใช้เส้นทางดาวคะนอง-สุขสวัสดิ์ จากนั้นจะเจอที่ว่าการอำเภอพระสมุทรเจดีย์ขับตรงไปก็ถึงวัดสาขลาจะมีป้ายบอกทางไปวัดสาขลาตลอดเส้นทาง หรือใช้รถโดยสารมายังท่าเรือข้ามฟากปากน้ำ จากนั้นนั่งเรือข้ามไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์จะมีสองแถวจอดอยู่ตรงท่าน้ำพระสมุทรเจดีย์ไปถึงวัดสาขลาเลย ค่าโดยสาร 8 บาทตลอดสาย

ทัวร์วัดไทย วัดไพชยนต์

สวัสดีค่ะวันนี้แอดมินก็จะพาทุกๆท่านไปเที่ยวทัวร์วัดไทยที่ "วัดไพชยนต์พลเสพย์ ราชวรวิหาร" กันนะคะ

วัดไพชยนต์พลเสพย์ ราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ชุมชนพระราชวิริยาภรณ์ ซอย 8 ถนนราชวิริยาภรณ์ ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดปากลัด เพราะตั้งอยู่บริเวณปากคลองลัดหลวง บ้างก็เรียกว่า วัดวังหน้า หรือ วัดกรมศักดิ์

• ภาพบรรยายกาศบริเวณหน้าทางเข้าของวัดไพชยนต์พลเสพย์ ราชวรวิหาร

พระอุโบสถ และพระวิหาร

• มีกำแพงแก้วล้อมรอบอาคารทั้ง 2 ไว้ มุมกำแพงแก้วมีวิหารคดอยู่ทั้ง 4 มุม ด้านหลังโบสถ์และวิหารประกอบด้วยเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ตั้งเรียงกัน 3 องค์
• บริเวณโบสถ์ วิหาร และพระเจดีย์ มีกำแพงประดับช่องลมลวดลายจีน ซุ้มประตูกำแพงประดับลายปูนปั้น บานประตูเป็นภาพวาดเทพผู้พิทักษ์ในแบบจีน ด้านนอกกำแพงประดิษฐานพระพุทธรูปอริยาบทนั่งปางประธานพร และมีตุ๊กตาสิงห์แบบจีนประดับอยู่

ชมภาพบรรยายกาศรอบวัด

เส้นทางรถที่ผ่านวัดไพชยนต์พลเสพย์ ราชวรวิหาร

นั่งรถเมล์สาย 6 มาทางสมุทรปราการ ผ่านบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ธ.กสิกรไทยสาขาใหญ่ วัดรวก พอถึงสี่แยกตรงหน้าวัดไพชยนต์ลงรถตรงแยก แล้วสามารถเดินเข้าวัดได้เลยค่ะ